ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเทรนด์รักสุขภาพค่อนข้างมาแรงซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฟิตเนส ปั่นจักรยาน หรือการวิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมและมีการจัดกิจกรรมเยอะแยะมากมาย กิจกรรมที่ทำให้วงการวิ่งของคนไทยดังไปทั่วโลกก็คงเป็น “ก้าวคนละก้าว” โดยพี่ตูน บอดี้สแลม เนื่องด้วยคนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น วงการเทคโนโลยีจึงเริ่มมีไอเทมมากมายมาตอบโจทย์สายรักสุขภาพอย่าง “นาฬิกาออกกำลังกาย” ที่หลายคนอาจจะได้ซื้อมาลองใช้กันบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเจ้านาฬิกานี้มันจะช่วยเรื่องการออกกำลังกายได้จริงหรือ?
นาฬิกาออกกำลังกาย หลายคนอาจจะเรียกว่า “Fitness Tracker” หรือ “Smart Watch” แน่นอนว่าหน้าที่ของมันต้องเป็นมากกว่านาฬิกาเพื่อบอกเวลาอย่างเดียวอยู่แล้ว แต่เป็นถึงอุปกรณ์มัลติฟังก์ชั่นที่สามารถตรวจสอบอัตราการไหลเวียนเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ ไปจนถึงอัตราการนอนหรือเดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลหรือผลลัพธ์ที่ได้จากการตรวจสอบสามารถอ่านค่าผ่านสมาร์ทโฟนของเราได้ง่ายๆ ในบางรุ่นสามารถคุยและรับสายโทรเข้าแบบไม่ต้องรับจากโทรศัพท์โดยตรง พร้อมการแจ้งเตือนข้อความจากโซเชียลมีเดียต่างๆ หรือจะเปิดเพลงฟังก็สามารถทำได้เช่นกัน
หลายครั้งที่คนเราอยากรู้ผลลัพธ์ของการกระทำต่างๆที่เราได้ทำลงไป โดยเฉพาะสายออกกำลังกาย การได้ดูผลลัพธ์ในแต่ละครั้งจะช่วยประเมินว่า การออกกำลังกายในครั้งนั้นตรงตามเป้าหมายที่เราต้องการหรือไม่ เพื่อนำไปวางแผนการออกกำลังกายวันต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
Table of Contents
ปัจจัยประกอบการเลือกซื้อ นาฬิกาออกกำลังกาย
1. เป้าหมายของการใช้งาน
นาฬิกาออกกำลังกายจะมีให้เลือกหลายแบบหลากฟังก์ชั่น และราคาก็แตกต่างกันออกไปตามฟังก์ชั่นการใช้งาน เพราะฉะนั้นการกำหนดเป้าหมายการใช้งานเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก เพื่อที่เราจะได้ใช้งานมันได้อย่างคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไป อย่างเช่น เราตั้งเป้าหมายเพียงแค่กระตุ้นการเดินให้ครบ 10,000 ก้าวต่อวัน ก็อาจจะซื้อรุ่นที่ไม่ต้องมีฟังก์ชั่นเยอะแยะมากมายก็ได้ แถมราคาก็ไม่แรงมากอย่าง Xiaomi Mi Band 6 (ราคาเพียง 1,690 บาท) รุ่นนี้ยังสามารถดูอัตราการเต้นของหัวใจ ไปจนถึงคำนวณประสิทธิภาพการนอนได้อีกด้วย
เครื่องมือติดตามการออกกำลังกายสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในการออกกำลังกายและใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น
Angela McIntyre, Research Director at Gartner
2. แค่กันน้ำ หรือ ใส่ว่ายน้ำได้
ข้อนี้ก็จะคล้ายๆกับเรื่อง เป้าหมายของการใช้งาน คุณสมบัติเรื่องการกันน้ำถือเป็นสิ่งที่ควรเลือกให้ตรงกับกิจวัตรประจำวันของเรา ถ้าอยากจะใส่นาฬิกาเพียงเพื่อวัดการทำงานของร่างกายตลอดทั้งวันแม้กระทั่งตอนอาบน้ำ แต่ไม่ถึงขั้นใส่ว่ายน้ำ ควรเลือก Smart Watch ที่มีระดับการกันน้ำอย่างน้อย IPX7 / IPX6 ก็เพียงพอแล้ว (ตามตารางด้านล่าง)
แต่ถ้าเราชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำหรือเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ อาจจะต้องการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อประเมินการออกกำลังกายในครั้งนั้น อุปกรณ์ที่ใช้จึงต้องออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีระดับการกันน้ำอย่างน้อย 1ATM ขึ้นไป (ตามตารางด้านล่าง)
Photo credit: Garmin
3. หน้าจอแสดงผล
นาฬิกาออกกำลังกายหรือ Smart Watch ส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2 แบบหลักๆ ดังนี้
1) แบบมีหน้าจอแสดงผล นาฬิกาออกกำลังกายที่คนนิยมใส่มากที่สุดก็จะเป็นแบบแสดงผลนี้ โดยจะมีการแสดงเวลาทั้งแบบที่เป็น หน้าปัดนาฬิกา หรือแบบที่แสดงตัวเลขบอกเวลา อีกทั้งยังสามารถดูอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการเผาผลาญพลังงาน ไปจนถึงดูข้อความจากโซเชียลมีเดียหรือดูสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ก็ได้ ในแต่ละรุ่นยังสามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่างสมกับที่เป็น Smart Watch จริงๆ
2) แบบไม่มีหน้าจอแสดงผล บางรุ่นอาจจะยังมีการบอกเวลาบ้างหรือบางรุ่นเป็นเพียงแค่สายรัดข้อมือธรรมดาคล้ายๆ Wristband แต่ว่าทุกแบบก็จะมีตัววัดชีพจรที่คอยทำหน้าที่ของมันเป็นอย่างดี แต่จะต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับสมาร์ทโฟน เพื่อดูการแสดงผลหรือผลลัพธ์ผ่านแอพเฉพาะของอุปกรณ์นั้นๆ ซึ่งข้อดีของแบบไม่มีหน้าจอคือ ราคาที่ถูกกว่า แต่การใช้งานก็สามารถทำได้แค่วัดชีพจรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ นาฬิกาออกกำลังกาย แบบมีหน้าจอแสดงผลเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะด้วยความที่เป็น Smart Watch เรื่องฟังก์ชั่นต้องหลากหลาย และช่วยให้สะดวกสบายในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ไม่เพียงแค่กับสายออกกำลังกายเท่านั้น แต่มันเหมาะกับทุกคนทุกไลฟ์สไตล์จริงๆ
4. GPS or No GPS
GPS (Global Positioning System) คือ อุปกรณ์สำหรับระบุตำแหน่งผ่านการส่งสัญญาณจากดาวเทียมเชื่อมกับพิกัดที่เราอยู่ นาฬิกาวิ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทที่ออกแบบมาให้มีระบบ GPS ในตัว สำหรับติดตามการวิ่งทั้งเรื่องระยะทางและความเร็ว ถ้าคุณเป็นนักวิ่งไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตาม โดยเฉพาะวิ่งมาราธอนหรือไตรกีฬา การที่นาฬิกาออกกำลังกายมีระบบ GPS ก็จะช่วยให้สามารถวางแผนการซ้อมได้ดียิ่งขึ้น ด้วยฟังก์ชั่นโหมดซ้อมที่จะช่วยเปรียบเทียบพัฒนาการของเราให้เห็นอย่างชัดเจน
และยังเหมาะกับ นักเดินทาง สายเที่ยวทั้งหลาย ที่ไม่ต้องเดินถือโทรศัพท์เพื่อดูแผนที่ระหว่างเที่ยว เสี่ยงต่อการโดนชกชิงวิ่งราวในสถานที่ต่างถิ่นอีก เพียงใช้นาฬิกาที่มีระบบ GPS ก็จะช่วยให้การเดินทางของเรามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
Photo credit: Progear
5. วัสดุและน้ำหนักของตัวเรือน
ด้วยความที่เป็นนาฬิกาประเภทที่จะต้องใส่เป็นระยะเวลานาน หรือบางคนเน้นใส่แค่ตอนออกกำลังกาย ตัววัสดุและน้ำหนักของตัวเรือนจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องเลือกให้เหมาะกับกิจกรรมและกิจวัตรของเราด้วย
ตัวเรือนกับสายนาฬิกาบางยี่ห้อจะเป็นชิ้นเดียวกันเลย แต่บางรุ่นสามารถเปลี่ยนสายเพื่อความสวยงามเหมือนได้เรือนใหม่ สายนาฬิกาออกกำลังกายส่วนใหญ่จะเป็นแบบซิลิโคน ด้วยคุณสมบัติทนร้อน ทนเย็น และมีความยืดหยุ่นสูง รวมถึงมีน้ำหนักเบากว่าสายประเภทอื่น ซึ่งเหมาะกับการใส่ทำกิจกรรมแทบทุกชนิด
6. แบรนด์ของสินค้า
แบรนด์ของสินค้าเป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของสินค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องคุณภาพ ราคา ไปจนถึงฟังก์ชั่นเด่นๆของแต่ละแบรนด์
และแบรนด์แรกที่เราจะแนะนำหลายคนอาจเคยได้ยินหรือเคยได้ลองใช้สินค้าของเค้ามาบ้างแล้วกับ Xiaomi ด้วยราคาที่ไม่แพงมาก แถมได้ฟังก์ชั่นที่เพียงพอสำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป หากใครอยากใช้ นาฬิกาออกกำลังกาย แต่ยังลังเลว่าจะเหมาะกับเราไหม อาจซื้อของ Xiaomi มาลองใช้งานก่อนตัดสินใจซื้อตัวอื่นที่ราคาสูงขึ้นกว่านี้ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี
Xiaomi แบรนด์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากเป็นประเทศจีนที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เริ่มต้นตั้งแต่ปีค.ศ. 2010 โดยแนวความคิดของ Lei Jun อดีตซีอีโอของ Kingsoft กับประโยคเจ๋งๆที่ว่า “ของดีทำไมต้องแพง?” จึงกลายเป็นคอนเซ็ปต์และจุดขายของแบรนด์ที่ได้ใจผู้ซื้อไปหลายกลุ่มเลยทีเดียว แถมสินค้าก็มีหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์รุ่นแรกของบริษัท Mi One หรือจะเป็นกล้อง Action Cam รุ่น Xiaomi Yi Action Camera ที่ทำยอดขายให้กับบริษัทอย่างสวยงาม จนมาถึงนาฬิกาออกกำลังกายรุ่น Mi Band 5 และ Mi band 6
Amazfit แบรนด์สัญชาติจีนจากบริษัท Huami ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท Xiaomi อีกทีหนึ่ง โดย Huami จะเน้นออกแบบสินค้าประเภท Wearable Technology ภายใต้แบรนด์ Amazfit โดยเฉพาะนาฬิกาออกกำลังกายที่จะมีฟังก์ชั่นเหนือกว่า Mi Band ขึ้นไปอีกตามราคา และมาพร้อมความสวยงามที่ใส่เป็นนาฬิกาแฟชั่นได้เหมือนกัน ใครอยากรู้ว่า Wearable Technology คืออะไร กดเข้าไปดูสินค้าอื่นๆเพิ่มเติมของแบรนด์นี้กันเลยค่ะ
fitbit แบรนด์สัญชาติอเมริกัน มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก เดิมบริษัทชื่อ Healthy Metrics Research, Inc. ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Health Solutions” สินค้าหลักๆของบริษัทจึงเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับการดูแลสุภาพ ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาออกกำลังกาย สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ ก่อนที่จะค่อยๆพัฒนามาเป็น Smart Watch กับหูฟังแบบ Bluetooth ที่เอาไว้ใช้คู่กัน
SUUNTO แบรนด์สัญชาติฟินแลนด์ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1936 หรือ 82 ปีมาแล้ว (เป็นบริษัทที่ทำกิจการมายาวนานที่สุดในกลุ่มของผู้ผลิตนาฬิกาออกกำลังกาย) โดยจุดเริ่มต้นของบริษัทเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีเกี่ยวกับการดูทิศทาง และสินค้าหลักในยุคแรกก็คือ เข็มทิศ ในปีค.ศ. 1997 ก็เริ่มมีสินค้าประเภทนาฬิกาโดยรุ่นแรกใช้ชื่อว่า SUUNTO Spyder
ความโดดเด่นของแบรนด์ SUUNTO อยู่ที่ความสวยงามของตัวเรือน และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานแบบสมบุกสมบัน เหมาะกับทุกกิจกรรม ใครที่เป็นสายลุย SUUNTO อาจเป็นสิ่งที่เรากำลังตามหา
คำว่า “SUUNTO” มาจากคำว่า “ทิศทาง” ในภาษาฟินแลนด์ ออกเสียงว่า “Soon-toh (ซันโต)”
GARMIN แบรนด์สัญชาติอเมริกันก่อตั้งโดยสองวิศวกรไฟฟ้า แกรี่ เบอร์เรียว (Gary Burrel) และมิน เคา (Dr. Min Kao) โดยชื่อแบรนด์ก็มาจากการผสมระหว่างชื่อของทั้งสองคนนั่นเอง (GAR+MIN) โดยบริษัทจะมีความโดดเด่นในเรื่องของอุปกรณ์ GPS และมีคอนเซ็ปต์ที่เน้นความเรียบง่าย แต่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ใครที่กำลังมองหานาฬิกาออกกำลังกายหรือ Smart Watch ที่เด่นเรื่องการหาพิกัดต้องนึกถึงแบรนด์นี้
7. ราคา
นาฬิกาออกกำลังกาย จริงๆ มีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลักหมื่น แต่อย่างที่เราได้แนะนำไปแล้วว่าควรเลือกซื้ออย่างไรให้ได้ราคาที่คุ้มค่า สรุปง่ายๆเลยก็คือ ซื้อให้ตรงกับความต้องการใช้งานจริง อย่างเราอยากได้นาฬิกาออกกำลังกายมาวัดผลแค่เรื่องประสิทธิภาพในการนอน ก็เลือกซื้อแค่รุ่น Mi Band 6 ที่ราคาเพียงพันต้นๆ เท่านั้นก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
Good Material ได้รวบรวม นาฬิกาออกกำลังกาย รุ่นที่กำลังเป็นที่นิยม ตั้งแต่ราคาหลักหมื่นไปจนถึงราคาหลักพัน เพื่อให้เพื่อนๆได้ดูความไฮเทคของนาฬิกาสมัยนี้ว่ามันน่าซื้อมาใส่ขนาดไหน นอกจากจะดูสวย เท่ ยังมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพของเราได้อีกด้วย
นาฬิกาออกกำลังกาย ราคาไม่เกิน 30,000 บาท
SUUNTO 9 PEAK
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย SUUNTO 9 PEAK
- น้ำหนัก : 52 g / 1.83 oz Titanium | 62 g / 2.19 oz Stainless steel
- กันน้ำ 100 เมตร รับประกันความอึดด้วย US MILITARY STANDARDS
- วัสดุหน้าจอกระจกแซฟไฟว์ ผ่านการทดสอบ ความคงทนกว่า 1,000 ชั่วโมง
- แบตเตอรี่ใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 170 ชั่วโมง (25h/50h/120h/170h)
- ระบบแจ้งเตือนพายุ, สภาพอากาศ และ เวลาพระอาทิตย์ขึ้น / ตก ผ่านหน้าจอ
- Suunto 9 Peak นาฬิกา GPS แบบมัลติสปอร์ต ที่มีความทนทานสูงสุด เหมาะสมกับกลุ่มผู้ใช้งานออกกำลังกายในสถานที่กลางแจ้งเป็นหลัก และ กิจกรรมผจญภัยแนวสมบุกสมบัน โหมดกีฬามัลติสปอร์ตให้เลือกใช้งานมากกว่า 80 ชนิด รองรับการฝึกซ้อมและแข่งขัน
- FusedTrack ติดตามระยะทางได้ยาวนาน • Smart Reminders แจ้งเตือนแบตเตอรี่ก่อนใช้งาน พร้อมเลือกโหมดแบตเตอรี่ได้ก่อนและหลังกิจกรรม
- ระบบ GPS NAVIGATION • วัดอัตราการเต้นหัวใจผ่านข้อมือด้วยเซนเซอร์ที่แม่นยำ (Valencell technology)
ราคา 25,900 บาท
Apple Watch Series 6 GPS+ Cellular
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย Apple Watch Series 6 GPS+ Cellular
ทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร
เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด (แอพออกซิเจนในเลือด) เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอล รุ่นที่ 3
จอภาพ LTPO OLED Retina แบบติดตลอด (ความสว่าง 1,000 นิต)
อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวตรวจจับแรง G สูงสุด 32 G พร้อมการตรวจจับการล้ม
จอภาพกระจก Ion-X บนตัวเรือนอะลูมิเนียม และจอภาพผลึกแซฟไฟร์บนตัวเรือนสแตนเลสสตีลและไทเทเนียม
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง สูงสุด 18 ชั่วโมง
ราคา 16,900 – 17,900 บาท
Garmin Forerunner 745
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย Garmin Forerunner 745 (นาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อนักวิ่งหรือนักไตรกีฬา)
- วัสดุเลนส์ : Corning® Gorilla® Glass DX
- ระดับการกันน้ำ 5 ATM
- ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ โหมดสมาร์ทวอทช์ : นานถึง 7 วัน โหมด GPS + เพลง: 5 ชั่วโมง / โหมด GPS โดยไม่ฟังเพลง : นานถึง 14 ชั่วโมง
- สามารถรับแผนการฝึกที่ปรับเปลี่ยนได้จากโค้ชของ Garmin หรือสร้างการออกกำลังการแบบปรับแต่งเองของคุณได้ที่ชุมชนฟิตเนสออนไลน์ Garmin Connect
- ซิงค์กับบริการสตรีมมิ่งเพลงต่าง ๆ อย่าง Spotify® เพื่อการจัดเก็บและเล่นเพลงโปรดของคุณได้ง่าย ๆ จากนาฬิกาข้อมือของคุณ
- นาฬิกาเรือนนี้สร้างขึ้นเพื่อให้ทนการวิ่งเหงื่อท่วมได้มากกว่า 200 รอบ ทางจักรยานวิบาก หรือการว่ายน้ำระยะไกล
- ประเมินสถานะการฝึกปัจจุบันของคุณเพื่อบ่งบอกว่าคุณกำลังฝึกน้อยเกินไปหรือมากเกินไป
ราคา 16,990 บาท
นาฬิกาออกกำลังกาย ราคาไม่เกิน 15,000 บาท
SUUNTO 7
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย SUUNTO 7
- น้ำหนักรวม: 70gกรัม
- แบตเตอรี่ :12 ชม. (โหมดGPS), 48 ชม. (โหมดปกติ)
- ขอบนาฬิกา(Bezel):StainlessSteel / ตัวเรือน(WatchCase) : ReinforcedPolyamid
- ด้วยการเชื่อมต่อ wifi ทำให้ Suunto 7 ของคุณสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ได้โดยอัตโนมัติ
- กันน้ำได้สูงสุด : 50 เมตร
- Wear OS by Googleทำให้ทุกวันของคุณง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือน, อัพเดทตารางกิจกรรมของคุณ
- รองรับโหมดกีฬากว่า 70 ชนิด แผนที่ออฟไลน์ที่ติดตั้งมากับนาฬิกาพร้อมกับ Heatmaps โดยแสดงค่าได้ถึง 15 กิจกรรม
- เปลี่ยนรูปลักษณ์ของนาฬิกาด้วยสายแบบ Quick Release เปลี่ยน watch face ได้ตามต้องการมากกว่า 1000 รายการ
ราคา 16,900 ลดเหลือ 12,900 บาท
Garmin VENU
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย Garmin VENU
- วัสดุเลนส์: Corning® Gorilla® Glass 3 / หน้าจอ AMOLED ที่โดดเด่น สว่าง
- ระดับการกันน้ำ: สำหรับว่ายน้ำ, 5 ATM
- ที่จัดเก็บเพลง: สูงสุด 500 เพลง
- ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ โหมดสมาร์ทวอทช์ : นานถึง 5 วัน, โหมด GPS และเพลง : นานถึง 6 ชั่วโมง
- ติดตามสุขภาพของคุณตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันด้วยคุณสมบัติ Pulse Ox และการตรวจวัดพลังงาน Body Battery
- หน่วยความจำ/ประวัติ: การออกกำลังกายแบบจับเวลา 7 กิจกรรม และติดตามข้อมูลกิจกรรมได้นาน 14 วัน
- การตรวจวัดพลังงาน Body Battery วัดระดับพลังงานในร่างกายของคุณ เพื่อบอกเวลาที่ร่างกายพร้อมสำหรับการออกกำลังกายหรือเมื่อต้องการพักผ่อน
ราคา 12,990 ลดเหลือ 9,990 บาท
Fitbit Versa 3
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย Fitbit Versa 3
- ขนาดเครื่อง : 40.6 x 37.0 x 11.5 มม.
- ระดับการกันน้ำ 5 ATM
- กระจก Corning® Gorilla® Glass 3 ที่ทนทาน กรอบหน้าจออะลูมิเนียมน้ำหนักเบา และสายซิลิโคนที่ใส่สบาย
- แอปกีฬาที่ใช้ GPS และแบบในร่มที่โหลดไว้ล่วงหน้ากว่า 20 แอป ไม่ว่าจะเป็น โยคะ วิ่ง ว่ายน้ำ และอีกมากมาย
- เซ็นเซอร์ Pulse Ox วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดของคุณระหว่างวันและขณะหลับ เพื่อดูว่าร่างกายของคุณดูดซึมออกซิเจนได้ดีแค่ไหน
- การตรวจวัดการนอนขั้นสูง ติดตามและแบ่งช่วงการนอนของคุณเป็นช่วงหลับตื้น หลับลึก และช่วง REM
ราคา 9,990 ลดเหลือ 8,490 บาท
HUAWEI Watch GT 2 Pro
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย HUAWEI Watch GT 2 Pro
- ขนาดตัวเรือน 46.7 x 46.7 x 11.4มม. หนัก 21 กรัม (ไม่รวมสาย)
- มีมาตรฐานกันน้ำ 5ATM
- ขนาดหน้าจอ AMOLED 1.39 นิ้ว ความละเอียด HD (454×454 พิกเซล)
- มีลำโพงและไมโครโฟนในตัว
- ตัวประมวลผล Kirin A1 + STL4R9
- ความจำ RAM 32MB + ROM 4GB
- มี GPS ในตัว รองรับ Bluetooth 5.1，BLE / BR / EDR
- ระบบเซ็นเซอร์ : Accelerometer sensor , Gyroscope sensor , Geomagnetic sensor , Optical heart rate sensor ,Air pressure sensor
- ระบบปฏิบัติการ Huawei Lite OS
- แบตเตอรี่ 455mAh อยู่ได้นานสูงสุด 14 วัน รองรับการชาร์จไร้สายแรงดันไฟ 5V2A
ราคา 9,990 ลดเหลือ 8,490 บาท
Amazfit T-Rex Pro
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย Amazfit T-Rex Pro
- ระดับการกันน้ำ 10ATM (ประมาณ 100เมตร)
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ 18 วัน สำหรับการใช้งานปกติ (9 วันสำหรับการใช้งานอย่างต่อเนื่อง)
- รองรับการวัดค่าอ๊อกซิเจนในเลือด / การวัด VO2max , ความเครียด , วัดคุณภาพการนอนหลับ
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ 24/7
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.3นิ้ว (Corning Gorilla 3 tempered glass + กันรอยนิ้วมือ)
- Bluetooth Music Control เปลี่ยนเพลงขณะเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟน
- ได้รับใบรับรองมาตรฐานทางการทหาร (15 Military Certified)
- ระบบนำทางที่ดี มีความแม่นยำสูง (GPS, GLONASS, Beidou, Galileo)
ราคา 6,299 ลดเหลือ 5,599 บาท
นาฬิกาออกกำลังกาย ราคาไม่เกิน 5,000 บาท
Xiaomi Mi Watch
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย Xiaomi Mi Watch
- น้ำหนักเบาเพียง : 12.8 กรัม
- กันน้ำได้สูงสุดถึง 50 เมตร (5ATM) สามารถใส่ว่ายน้ำได้อย่างสบาย
- สามารถใช้เป็นรีโมทสำหรับการถ่ายภาพด้วย Smartphone
- รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น Xiaomi Wear
- วัสดุตัวเรือนผลิตจาก Stainless Steel Material
- ฟังก์ชั่นคำแนะนำในการกำหนดลมหายใจ ช่วยเพิ่มสมาธิ และช่วยให้การหายใจเป็นระเบียบมากขึ้น
- ฟังก์ชั่นการตรวจสอบความเครียด พร้อมการแจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดความเครียด
- ฟังก์ชั่นการออกกำลังกายที่มาให้ถึง 17 แบบครอบคุมการออกกำลังกายทั้งในร่ม และกลางแจ้ง
- แบตใช้ได้นาน 16 วัน
ราคา 3,990 ลดเหลือ 3,490 บาท
AMAZFIT GTR
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย AMAZFIT GTR
- ขนาด 1.2 นิ้ว (390 x 390 พิกเซล)
- ขนาด 42 มม. 6 x 42.6 x 9.2 มม.น้ำหนัก 25.5 กรัม
- หน้าจอ AMOLED พร้อมการป้องกัน Corning Gorilla Glass 3 มีการเคลือบ AF
- Bio Tracker PPG ออปติคัลเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- กันน้ำและกันฝุ่น (5ATM / 50 เมตร)
- 195mAh LiPo battery อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 12 วันในโหมดนาฬิกาพื้นฐาน
ราคา 4,799 ลดเหลือ 2,690 บาท
HUAWEI Band 6
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย HUAWEI Band 6
- น้ำหนัก： ประมาณ 18 กรัม (ไม่รวมสายนาฬิกา)
- หน้าจอ ：หน้าจอแบบ AMOLED color ความละเอียด : 194 x 368 pixels
- การเชื่อมต่อ: Bluetooth: BT5.0, BLE
- แบตเตอรี่: ความจุ : 180 mAh (สามารถใช้งานได้ 14 วัน)
ราคา 1,899 ลดเหลือ 1,699 บาท
Xiaomi Mi Smart Band 6
จุดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย Xiaomi Mi Smart Band 6
- สามารถกันน้ำได้ในระดับ : 5ATM กันน้ำได้สูงสุด 50 เมตร
- น้ำหนักเบาเพียง : 12.8 กรัม 1
- SpO2 tracking
- แบตเตอรี่ 125mAh สามารถใช้งานได้ 14 วัน (สำหรับการใช้งานปกติ)
- มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเลเซอร์
- มีระบบแจ้งเตือนสายเรียกเข้า
- หน้าจอ AMOLED+TP capacitive touchscreen
ราคา 1,899 ลดเหลือ 1,699 บาท
การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่จะให้ดีมากยิ่งขึ้นก็ควรที่จะสามารถวัดผลได้ และ นาฬิกาออกกำลังกาย ได้เข้ามาช่วยให้คนทั่วไปก็สามารถวัดผลและวางแผนการออกกำลังกายได้ด้วยตัวเอง ถือเป็นการสร้างวินัยเพื่อพิชิตหุ่นสวยและมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อาจจะดูเว่อร์แต่ถ้าได้ลองซื้อมาใส่แล้วเพื่อนๆจะรู้ว่ามันคือเรื่องจริง แต่ถ้าใครคิดว่าซื้อมาใส่ดีกว่าเผื่อจะได้รู้สึกอยากออกกำลังกาย ใจเย็นๆนะคะนี่นาฬิกาไม่ใช่ของขลังเนาะ ฮาบ้างไม่ฮาบ้าง
หากเพื่อนๆชอบก็อย่าลืมให้กำลังใจเราด้วยการกดไลค์ กดแชร์ ส่งต่อเรื่องดีๆให้กับเพื่อนของเราอ่านด้วยนะคะ :D
- หากท่านต้องการนำเนื้อหาหรือข้อมูลจากเว็ปเราไปใช้งานเพื่อเผยแพร่ให้ความรู้โดยไม่มีผลประโยชน์ โปรดติดลิ้งค์เครดิตกลับมาหาเราที่หน้านี้
- Info credit: POPSCI, TOMSGUIDE, GARMIN, SUUNTO
- Featured image: PIXABAY
