“ไวน์” เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รสชาติของไวน์แต่ละชนิดมีความพิเศษเฉพาะตัว ซึ่งเกิดจากการหมักบ่ม ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่ละเอียดอ่อนซับซ้อนทำให้ไวน์มีราคาค่อนข้างสูงแตกต่างจากเครื่องดื่มชนิดอื่น นอกจากเรื่องรสชาติแล้ว การเก็บรักษาไวน์ในห้องเก็บไวน์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก หลายคนจะเข้าใจว่าไวน์ส่วนใหญ่เก็บไว้ได้นานเป็นสิบๆ ปี โดยไม่ต้องทำอะไร
ซึ่งนั่นอาจจะเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนักโดยเฉพาะกับอากาศของเมืองไทยที่ค่อนข้างร้อน ไม่เหมือนประเทศยุโรปที่มีอากาศหนาวเย็นการเก็บที่อุณหภูมิห้องปกติ ขาดการดูแลรักษาที่ดีอาจจะทำให้คุณภาพไวน์ดรอปลง หรือเปลี่ยนแปลงจนดื่มไม่ได้เลยก็มี วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากคนรักไวน์ ด้วยการแนะนำวิธีเก็บไวน์อย่างมีคุณภาพ คงรสชาติดีเหมือนวันแรก
5 วิธีการเก็บไวน์อย่างมีคุณภาพ
1. อุณหภูมิต้องเหมาะสม
ปัจจัยข้อแรกถือว่ามีผลต่อคุณภาพของไวน์มากที่สุด อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บไวน์ ควรจะอยู่ที่ประมาณ 18–25 °C ไม่ควรเก็บไวน์ทั้งในที่ร้อนและเย็นเกินไป เพราะจะทำให้กลิ่นและรสชาติของไวน์เสียหรือเปลี่ยนแปลงไป หากเป็นประเทศยุโรปอากาศหนาวเย็น การเก็บไวน์ในอุณหภูมิห้องก็ดูจะไม่เป็นปัญหา แต่กับประเทศอากาศร้อนแบบบ้านเรา การเก็บไวน์ไว้ในอุณหภูมิห้องเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลี่ยง
2. ไม่ควรให้โดนแสงแดด
แสงแดดทำให้เกิดการสะสมความร้อน คนรักไวน์หลาย ๆ คนอาจจะทำห้องเก็บไวน์อย่างดี แต่ปล่อยให้มีแสงสว่างเข้าห้องมากเกินไป เมื่อไวน์โดนแสงแดด จะไปทำปฏิกิริยาให้กระบวนการหมักบ่มไวน์ทำงานเร็วขึ้น ส่งผลให้รสชาติไวน์เกิดเปลี่ยนแปลง เสียรสชาติ ทางที่ดีห้องเก็บไวน์ควรเป็นห้องทึบแสงจะดีที่สุด
3. ความชื้นต้องพอเหมาะ
ความชื้นก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพของไวน์ โดยเฉพาะไวน์ชนิดที่มีจุกคอร์ก (Cork) ปิดปากขวด หากความชื้นในอากาศน้อยกว่า 50% จุกคอร์กจะแห้งกรอบ ทำให้อากาศภายนอกเข้าไปในขวดได้ รสชาติไวน์ก็จะเปลี่ยนแปลง หรือหากเศษจุกคอร์กแตกร่วงลงไปในขวดไวน์ก็จะเสียเร็วขึ้น หรือหากความชื้นเกินกว่า 70% จะส่งผลให้ฉลากไวน์เปื่อยยุ่ย กลายเป็นความเสียหายของนักสะสมไวน์เช่นกัน ดังนั้น นอกจากการเก็บในห้องทึบแสงแล้ว ควรวางขวดไวน์แนวนอนเพื่อป้องกันปัญหาจุกคอร์กแห้ง
4. ระวังแรงสั่นสะเทือน
การเก็บไวน์ในตู้แช่ไวน์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือตู้แช่ไวน์ทั่วไป ตัวตู้อาจจะมีการสั่นสะเทือน ซึ่งการสั่นก็ส่งผลต่อคุณภาพและรสชาติของไวน์ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อขวดไวน์สั่นอุณหภูมิในขวดจะสูงขึ้น ก็จะเป็นการเร่งกระบวนการหมักบ่มจนรสชาติเปลี่ยนไป หรือเสียไปได้เลย
5. ระวังกลิ่นไม่พึงประสงค์
กลิ่นเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะห้องเก็บไวน์ หากปล่อยให้มีกลิ่นอับ กลิ่นไม่พึงประสงค์เข้ามาปะปน อาจจะส่งผลต่อกลิ่น และรสชาติดั้งเดิมของไวน์ได้ด้วยเช่นกัน สิ่งที่ต้องระมัดระวังป้องกันให้มากคือ บริเวณพื้นที่เก็บไวน์ไม่ควรอยู่ปะปนกับพื้นที่อาหาร หรือวัตถุที่มีกลิ่นทุกชนิด
วิธีเก็บไวน์อย่างมีคุณภาพ ให้คงรสชาติดีเหมือนวันแรก เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ของนักดื่ม นักสะสมไวน์ เพราะไวน์แต่ละขวดนั้นนอกจากเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีราคาแพง มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางจิตใจไม่ต่างอะไรจากของสะสมล้ำค่า แต่หาก
นักดื่มท่านใดที่ไม่อยากเพิ่มความยุ่งยากในการดูแลเก็บรักษาไวน์ การเลือกใช้บริการห้องเก็บไวน์ที่มีวิธีการดูแล เก็บรักษาไวน์อย่างถูกต้อง จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
โดยเฉพาะห้องเก็บไวน์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกของ i-Store Wine Storage ที่ออกแบบห้องเก็บไวน์ตามหลักมาตรฐานสากล เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าไวน์ได้ถูกเก็บรักษาไว้ใน Wine Cellar ระดับพรีเมียม มีการควบคุมอุณหภูมิความชื้นที่เหมาะสม เพื่อคงรสชาติและคุณภาพของไวน์ไว้อย่างดีที่สุด แถมยังสามารถเข้าออกห้องเก็บไวน์ส่วนตัวได้ตลอด 24 ชั่วโมง
