เตรียมความพร้อมรถยนต์ ก่อนออกเดินทาง การรับมือเมื่อเจอวิกฤตรถเสีย

by goodmaterial
เตรียมความพร้อมรถยนต์ ก่อนออกเดินทาง

หากต้องขับรถทางไกลไม่ว่าจะเดินทางท่องเที่ยว หรือไปธุระต่างจังหวัด สิ่งที่คนรักรถต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอก็คือ การเตรียมความพร้อมของทั้งคนทั้งรถก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะรถที่เราใช้งาน ควรตรวจเช็กสภาพรถให้มั่นใจก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย และ ป้องกันเหตุสุดวิสัย ไม่ว่าจะเป็น รถเสียกลางทาง หรืออุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้

บางคนเข้าใจว่าเอารถเข้าศูนย์ตามระยะอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเช็กอะไร แต่นั่นอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องเท่าไหร่นัก ทางที่ดีควรตรวจสภาพรถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเองอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ารถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานมากที่สุดจะดีกว่า วันนี้เราจะมาแนะนำข้อควรรู้ก่อนออกเดินทาง และวิธีเตรียมพร้อมรับมืออย่างไรเมื่อเจอวิกฤตรถเสีย

ตรวจเช็กสภาพรถ

หากรถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ความมั่นใจและความปลอดภัยในการขับขี่ก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าสภาพเครื่องยนต์เป็นสิ่งที่ต้องตรวจเช็กเป็นลำดับแรก เช่น การตรวจเช็กน้ำยาหม้อน้ำ ตรวจดูว่ามีร่องรอยน้ำมันเครื่องรั่วซึมออกมาจากส่วนไหนบ้างหรือไม่ ตรวจวัดระดับน้ำมันหรือของเหลวในเครื่องยนต์ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก ควรอยู่ในระดับที่มากกว่ากึ่งกลาง รวมถึงการตรวจเช็กทำความสะอาดไส้กรองอากาศด้วย

ตรวจเช็กระบบไฟส่องสว่าง

ระบบไฟรถยนต์รวมถึงไฟส่องสว่างก็เป็นหัวใจสำคัญในการขับรถทางไกล ในการช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุหรือความเสียหายลงได้ก่อนออกเดินทาง ให้ทดลองเปิดสัญญาณไฟและระบบส่องสว่าง เช่น ไฟหน้า ไฟสูง ไฟต่ำ ไฟเลี้ยว ไฟเบรก รวมถึงตรวจเช็กสัญญาณไฟต่างๆ ภายในรถ เช่น ระบบเซ็นเซอร์ ระบบเปิดปิดหน้าต่าง กล้องมองหลัง ฯลฯ

ตรวจเช็กระบบเบรก

ระบบเบรกรถยนต์ เป็นอีกส่วนที่สำคัญอย่างมากในการขับรถทางไกล การตรวจเช็กกระบบเบรกเบื้องต้นด้วยตัวเองก็ยังสามารถทำได้ง่ายๆ เช่นกัน เช่น การตรวจเช็กผ้าเบรก จานเบรกว่าเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง ด้วยการทดลองเหยียบเบรก สังเกตระยะเบรกดูว่าระยะลึกลงกว่าที่เคยใช้หรือไม่ หากลึกกว่าเดิมก็อาจจะถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ให้รถได้แล้ว เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้การเบรคทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เสี่ยงจะเกิดอันตรายเอาได้ง่ายๆ

ตรวจเช็กลมยางยางอะไหล่รถยนต์

ตรวจเช็กลมยางยางอะไหล่

ก่อนล้อหมุน ลมยางต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพราะยางรถยนต์นอกจากมีหน้าที่ในการขับเคลื่อนรถยนต์แล้ว ยังทำหน้าที่ช่วยในการทรงตัว ส่งผลโดยตรงกับความปลอดภัยในการขับขี่และความสบายในห้องโดยสาร แถมยังมีผลต่ออัตราการใช้น้ำมันรถด้วย การตรวจเช็กลมยางจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน

ตรวจเช็กระบบแอร์

การขับรถโดยไม่มีแอร์ ในประเทศที่อากาศร้อนมากๆ อย่างประเทศไทยของเรา เป็นอะไรที่ทรมานมากๆ อาจจะทำให้หงุดหงิดเสียสมาธิเอาได้ง่ายๆ เลย ไม่เพียงแต่ในหน้าร้อนเท่านั้น หน้าฝนหรือหน้าหนาวระบบแอร์ในรถยนต์ก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน ดังนั้น ก่อนเดินทางทุกครั้ง ต้องเช็กให้แน่ใจว่าระบบแอร์ยังทำงานเป็นปกติ ด้วยการสตาร์ทรถ ทดลองเปิดปิดระบบแอร์ เพื่อเช็กระบบควบคุมอุณหภูมิในห้องโดยสารก่อนเสมอ

เตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินต่างๆ ไว้ให้พร้อม

ตรวจเช็กอุปกรณ์ประจำรถ

การขับรถทางไกลอาจจะเกิดอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ตลอดเวลา การเตรียมอุปกรณ์ประจำรถ เตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินต่างๆ ไว้ให้พร้อม จะช่วยให้เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาจริงๆ แล้ว จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น อย่างเช่น

  • ไฟฉาย
  • สายพ่วงแบต
  • ป้ายสะท้อนแสง
  • สเปรย์อุดยางรั่ว
  • ไขควง
  • สายลากรถ
  • ประแจแม่แรง
  • สัญญาณไฟฉุกเฉิน
  • ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นต้น

เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบนท้องถนนควรทำอย่างไร

หากเกิดปัญหารถเสียขึ้นมาจริงๆ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตั้งสติให้ดี ไม่ตกใจจนเสีนสติ โดยเฉพาะเมื่ออยู่บนท้องถนน ให้คิดไว้ตลอดเวลาว่าทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้

จอดรถยนต์ในที่ปลอดภัย

จอดรถในที่ปลอดภัย

หากรถเริ่มมีปัญหาขัดข้อง จนแน่ใจแล้วว่าไม่สามารถขับต่อไปได้ ให้พยายามมองหาที่จอดรถข้างทาง ที่จอดแล้วปลอดภัยไม่กีดขวางการจราจร อย่าพยายามจอดเข้ามุมอับ เผื่อไว้ในกรณีที่ต้องเรียกช่าง เรียกรถลากหรือรถยก จะสามารถทำงานได้โดยสะดวก

เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน

เมื่อรถยนต์ไม่สามารถขับต่อได้ การจอดแวะข้างทาง ควรเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเอาไว้ เพื่อเป็นการแจ้งเตือนรถยนต์คันอื่นให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หรือหากมีอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง กรวยสามเหลี่ยม ควรนำออกมาตั้งไว้ก่อนถึงจุดจอดรถประมาณ 5 เมตร เพื่อเป็นจุดสังเกตให้รถคันอื่นๆ เห็น และระวังป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

เปิดฝากระโปรงรถ

กรณีรถเกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ หลังจากจอดรถในที่ปลอดภัยแล้ว ควรเปิดฝากระโปรงรถยนต์ไว้ เพื่อระบายความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ เพื่อให้ช่างซ่อม หรือเจ้าหน้าที่รถยก รถลาก ทำงานได้สะดวก

ศูนย์บริการรถยก

โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ

หากรถทำประกัน สามารถโทรติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อขอความช่วยเหลือในเบื้องต้นได้ แต่หากแน่ใจว่ารถต้องเข้าอู่ซ่อม หรือเข้าศูนย์บริการ ควรมีเบอร์โทรศัทพ์ของศูนย์บริการรถยก รถลาก หรือรถสไลด์ เตรียมไว้ในโทรศัพท์อยู่เสมอ 

เมื่อต้องขับรถทางไกล หรือเดินทางในช่วงฤดูต่างๆ ควรต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง มีวินัยและมีน้ำใจในการขับขี่ต่อเพื่อนร่วมทาง แต่หากเกิดเหตุไม่คาดคิดระหว่างการเดินทางขึ้นมาจริงๆ เช่น รถเสียหรือรถขัดข้อง จนไม่สามารถขับต่อไปได้ ต้องนำรถคันโปรดเข้าอู่ ควรเช็กพิกัดและตำแหน่งที่รถจอดให้ชัดเจน และควรเลือกใช้บริการรถยก รถลาก ที่มีความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้ อย่างศูนย์บริการรถยกกรุงเทพและปริมณฑล ที่พร้อมให้บริการรถยก รถลาก รถสไลด์ ที่ได้รับความไว้วางใจ และพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ช่องทางติดต่อรถสไลด์ :

Tel : (098) 295 6197

Facebook : รถยก รถลาก รถสไลด์ 24 ชม.

You may also like

Copyright © 2023 สงวนสิทธิ์ทุกประการ Good Material